จากที่ได้ฝึกพูดเล่าเรื่อง ในกระทู้นี้ ...
https://miintominto.blogspot.com/2017/03/blog-post_16.html
และฝึกเขียนในกระทู้นี้
https://miintominto.blogspot.com/2017/04/blog-post.html
และอ่านวิธีพูด / เขียน ของคนญี่ปุ่นมาพอสมควร รู้สึกว่าการพูดและเขียนต่างกันนิดหน่อย (ในกรณีคนญี่ปุ่น) นะคะ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพยายามให้คนอ่าน/ฟังเห็นภาพ เข้าใจความรู้สึกของตัวละครในเรื่อง
แค่ ถ้าเป็นการพูดดูจะตัดประโยคถี่กว่า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
**สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้**
①表現
การใส่คำพูดแสดงอารมณ์ตัวละคร เช่น 「あっやばい!」、「しまった!」จะเหมือนกัน
มีการใช้ てくる、ていく、てしまうเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น และการใช้ประโยคย่อยขยายหน้าคำนามเพื่อบอกลักษณะ และให้เรื่องดำเนินไปอย่างสมูธขึ้น มีอยู่ทั้งตอนพูด และเขียนเล่าเรื่องค่ะ
แม้แต่เวลาพูด คนญี่ปุ่นก็นิยมใช้ประโยคย่อยขยายคำนามเนอะคะ
เช่น 眠そうにしていたビジネスマンらしい人
ถ้าเป็นเราคงคิดไม่ทัน ฮือ T^T
จริงๆ ในคาบ会話ก็สอนให้ขยายคำนามแบบนี้ค่ะ เพื่อให้เรื่องราวน่าสนใจไม่เยิ่นเย้อ แต่ก็ยังยากอยู่ดี orz ถ้าเป็นการเขียนก็จะไม่มีปัญหาแบบนี้ค่ะ
อาจเป็นเพราะภาษาไทยไม่ค่อยพูดแบบนี้ (เรียกว่าอะไรนะ?? ประโยคความซ้อน??)
ยิ่งถ้าคำนามที่ประโยคย่อยนั้นไปเกาะอยู่ เป็น คำสรรพนาม ที่เป็นประธานด้วยละก็... ยิ่งรู้สึกพูดยากไปใหญ่
เช่น ฉันที่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก.... ฟังดูขัดๆมั้ยอ่า
หรือความสามารถภาษาไทยของเราบกพร่องกันนะ 5555 อาจจะมีประโยคที่ใช้ ฉัน + ที่..... แล้วฟังดูธรรมชาติกว่านี้ก็ได้ค่ะ TT
สำหรับ表現คงจะมีเรื่องนี้ ที่คิดว่ายากสุดค่ะ
②内容
ในกรณีที่แต่งเอง ถ้าเป็นเรื่องสั้นๆ ก็ควรจะมีพอยท์และธีมชัดเจนค่ะ มีไคลแมกซ์ 1 จุด
และถ้าจบแบบหักมุมได้จะดีมาก
และเรื่องต้องชัดเจนค่ะ มีอธิบายลักษณะตัวละคร / สถานการณ์ เหตุผล ความรู้สึกต่างๆ ไปตลอด เพื่อให้คนอ่านนึกตามไปได้ ไม่งงว่า อ้าว แล้วอันนี้มายังไง
③ワークショップ
จากที่ลองแต่งเอง เรื่อง僕はお嬢様のために命をささげる เป็นครั้งแรกที่พยายามแต่งเรื่องฟีลกู้ดค่ะ
(แต่มันกลายเป็นตลกรึเปล่า 555555555)
รู้สึกว่า input สำคัญมากๆ และต้องเป็น input ที่ได้บ่อยจนใช้เป็นด้วยค่ะ
สมมติ ถ้าเราอ่านนิยายแนวผีบ่อย ก็จะมี 表現เลือดสาดเยอะ สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที
หรืออย่างน้อย "คลับคล้ายคลับคลา" ว่ามีคำแบบนี้อยู่นะ ก็จะเสิร์ชหาในกูเกิ้ลและเอามาใช้ได้ค่ะ
รู้สึกว่าการเสิร์ชกูเกิ้ลโดยใส่ " " ครอบข้อความเรา สะดวกมากๆ เช่น
ไม่แน่ใจว่า 基づく ใช้คำช่วยอะไร ก็พิมพ์ "に基づく" "を基づく" ลงไป ละดูว่าอันไหนคนใช้เยอะกว่า
คิดว่าวิธีนี้ทุกคนน่าจะรู้แหละค่ะ ฮืออ T^T แต่เราเพิ่งรู้เมื่อ... ปีก่อน? ตอนอยู่ญี่ปุ่น แล้วต้องเสิร์ชหา 用例 มาทำเคงคิวค่ะ
แต่ถ้าเราไม่เคยอ่านอะไรแนวนั้นเลย ก็อาจจะคิดไม่ออกว่าควรใช้คำอะไรดี และจะเสิร์ชอากู๋ให้คำๆนั้นออกมา ควรเสิร์ชอย่างไร
ทางแก้ก็คือ เปิดดิกก่อน แล้วเอาคำในดิกมาเสิร์ชกูเกิ้ลว่าใช้ยังไงถึงจะไฮโซค่ะ 55555
จากการลองทำจริง ก็รู้สึกว่าได้確認คำศัพท์ที่อยู่ในหัว (หรืออาจลืมๆไปบ้าง) และได้พยายามค้นหา 表現ใหม่ๆ ค่ะ
เราชอบเขียนนะ เพราะเวลาพูดมันเสิร์ชไม่ได้ ถ้าพูดก็คงได้ฝึกเรื่องคิดเร็ว / โต้ตอบ / ความมั่นใจ อื่นๆ ด้วย แต่ในด้านเพิ่มคลังศัพท์ คิดว่าเขียนก็มีประสิทธิภาพดีค่ะ
④FEED BACK
หลังจากอ่านฟีดแบ็คจากเพื่อนๆ ในรอบแรก ที่ส่งคินะโกะจัง(5555)ไป ก็รู้สึกว่าเรายังดำเนินเรื่องได้ไม่สมูธพอ จุดที่ควรจะเน้นก็ไม่เน้น
เหมือนลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ไม่ดีอะค่ะ มันยังไม่ まとまった
แต่ได้กลับมาคิด / เขียนอีกรอบก็รู้สึกดีขึ้น
และฟีดแบ็คจากอาจารย์ สนใจการใช้คำว่า こう言った มากเลยค่ะ
อย่างเช่น เราจะอธิบายว่า เมื่อได้ฟังดังนั้น คุณเอก็พูด.....................
ถ้าเป็นภาษาไทย ประโยคคำพูด "...." จะตามมาข้างหลังค่ะ
เช่น
แล้วเขาก็พูดดังนี้ (ต้องกดเอ็นเทอร์ด้วยนะ 555)
"ฉันว่าคนนั้นมีพิรุธล่ะ"
ตอนเราเขียนเรื่องคินะโกะ เลยทำแบบเดียวกันค่ะ คือ
彼女は癒される笑顔でこう言った「ねえ、今日は私の誕生日だよ。今夜友達いっぱい集まってくれるからキナコちゃんも一緒に歓迎しようね」
คือเอาこういったไว้ข้างหน้า
แต่อาจารย์บอกว่าสำหรับภาษาญี่ปุ่น ต้องไว้ข้างหลังจะเป็นธรรมชาติกว่าค่ะ
อย่างเช่น
「ねえ、今日は私の誕生日だよ」と、彼女は癒される笑顔でこう言った
(อันนี้แก้เอง TT ถูกหรือเปล่าคะ?)
อันนี้เป็นสิ่งที่เพิ่งรู้ครั้งแรกจริงๆ จะจดจำไว้ใช้ค่ะ จริงๆอ่านนิยายก็น่าจะเห็นมาบ้าง แต่ไม่เคยสังเกตเลย...
นอกจากนี้ยังมีประโยค
ケージから飛び出して2年間ずっと暮らしていた豪邸を初めて出てきた。
ตรงนี้เราใช้ 出てきた แต่อาจารย์แก้เป็น 出たค่ะ
ถ้าเป็น 出てきた จะเหมือนกับเราอยู่ใน 立場เดียวกับกระต่าย คือออกมาจากบ้านพร้อมๆกัน
แต่ถ้าใช้ 出たจะให้อารมณ์เหมือน กระต่ายตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งออกมาสู่โลกอันกว้างใหญ่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สรุป...ก็ประมาณนี้ค่ะ ชอบเขียนเล่าเรื่องนะคะ สนุกดี ><
แต่พูดเล่าเรื่องยากอ่ะ ฮือฮือฮือ
คงต้องฝึกกันต่อไปค่ะ orz
จริงๆไอ่พูดแบบใช้ประโยคย่อยขยายหน้าคำนามเวลาเขียนก็ไม่ค่อยมีปัญหาจริงๆนั่นแหละ แต่เวลาพูดมันทำไม่ได้เลออ ยากอ่ะ คิดไม่ทัน ไม่สามารถทำให้เป็นธรรมชาติขนาดนนั้น มณเคยเม้นเล่นๆให้น้องในเฟสบุ๊คว่า かわいそうな日本語を専攻している学生たち ซึ่งพอนึกถึงที่ไรก็แอบตลกอ่ะว่ามันขยายเยอะไปป่ะวะ อาจจะขยายจนดู不自然ไปเลย ฮืออ
ตอบลบแต่จริงๆ ประโยคที่มณพิมพ์มาเราก็ว่าโอเคนะ 555
ลบการขยายคำนามอาจจะเพราะไม่ใช่แนวคนไทยก็เลยไม่ชินก็ได้ ตอนเรียนแปลอิ้ง อาจารย์บอกเสมอเลยว่า ภาษาไทยนิยมประโยค ถ้าประโยคภาษาอังกฤษมีคำขยายเยอะ ให้แปลงเป็นประโยคจะเป็นธรรมชาติกว่าการเขียนตรงๆแบบนั้น
ตอบลบอืมม์นั่นสินะ ภาษาไทยถ้าจะอธิบายยาวส่วนใหญ่ก็แยกประโยคไปเลย เวลาแปลจากภาษาอื่นมาแล้วลำบากมากๆ 55
ลบ